โครงงานนี้เริ่มต้นการการที่ผมกับเพื่อนอีก 2 คนต้องการจะลงแข่งในส่วนของศิลปหัตถกรรมนักเรียน พวกเรากับครูที่ปรึกษาก็รวมหัวกันคิด ด้วยความที่ต้อนนั้นพวกเรากำลังเห่อของเล่นใหม่ที่โรงเรียนพึ่งได้มาก็คือ เจ้า Bord KidBright นั่นเองงง ก็เลยคิดโครงงานที่ base on บอร์ดตัวนี้นั่นเอง จนได้มาซึ่งหัวข้อโครงงาน ระบบแจ้งเตือนสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยติดเตียง นั่นเอง!

KidBright คืออะไร ?
เผื่อใครยังไม่รู้จัก KidBright ผมจะเล่าให้ฟัง หลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อของ Arduino หรือ Microbit หรือถ้าไม่เคยได้ยินก็ไม่เป็นไร ???? พูดง่ายๆเลยมันก็คือ คอมพวเตอร์เครื่องหนึ่งที่มีขนาดเล็ก หลดไฟ ใดๆ โดยมันสามารถเชื่องต่อกับอุปกรณ์ อื่นๆได้ (เซ็นเซอร์) เช่น ปุ่มกด หน้าจอใดๆ โดยเราสามารถเขียนโปรแกรมรับค่าหรือส่งค่า จากพวกอุปกรณ์เหล่านี้ได้ เช่น เขียนโปรแกรมว่าถ้าเรากดปุ่มให้ไฟติด หรือ อย่างที่หลายๆคนอาจเคยเห็น เช่นพวก หลอดไฟโซล่าเซลล์ที่เดินผ่านแล้วไฟติด แต่อันนี้เขาคงไม่ได้ใช้ KidBright นะ เพราะ มันค่อนข้างมีราคา
แล้วระบบของเราต้องทำอะไรได้หละ
หลังจากเราได้หัวข้อมาแล้วเราจึงไป Research แล้วก็ได้ข้อมูลมาว่าผู้ป่วยติดเตียงต้องเปลี่ยนท่านอนทุก 2 ชั่วโมง พวกเราจึงเอาปัญหาตรงนี้มาเป็นปัญหาหลักที่ต้องการจะไป ช่วยแก้ไข หรือทำให้ อะไรๆมันดีขึ้น เราจึงได้เริ่ม feature แรกขึ้น โดยได้กำหนดขึ้นว่าทุกๆ 2 ชั่วโมงก็ให้ระบบมันร้องเตือน ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงจะได้มาช่วยพลิกตัวนั่นเอง
ปัญหาต่อไปคือ มีผู้ป่วยติดเตียงที่จำเป็นต้องใช้ถุงฉี่ เหมือนเดิมเราจึง design ว่าหากถุงฉี่เต็มต้องเปลี่ยนถุงฉี่ก็ให้ระบบร้องเตือนผู้ดูแล เช่นกัน **การเปลี่ยนถุงฉี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะ หากปล่อยถุงเต็มแล้วฉี่ย้อนขึ้น จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง **
feature สุดท้าย หากผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือ หรือ ต้องการเรียกผู้ดูแล ระบบก็จะช่วยส่งเสียงแจ้งเตือนให้เช่นกัน โดยเรากำหนดให้มีปุ่มในการกดเรียกผู้ดูแลนั่นเอง
เริ่ม Dev กันเถอะ
หลังจากที่เรามี requirement แล้วก็ได้แบ่งหน้าที่กันไปทำ จริงๆ ก็ช่วยๆกันทำกันทุกหน้าที่แหละ แต่หลักๆแล้ว ผมเป็นคนทำในส่วนของ Programing และ ก็มีแตะๆในส่วน Hardware บ้างเล็กๆ น้อยๆ และในสิ่งที่ผมทำน้อยที่สุดก็คือในเรื่องเอกสารนั่นเอง!! ตอนนั้นคุยกับคนยังยากเลย ถ้าไปนั่งทำเอกสารอาจตายได้
พอได้แบ่งหน้าที่อะไรกันเรียบร้อย ผมก็ได้เริ่ม code จะเรียกว่า code ได้รึป่าวน้า เรียกว่า program ดีกว่า เพราะว่า KidBright เขา Design เพื่อให้เริ่มเขียนโปรแกรมได้ง่าย โดยมี IDE ที่ชื่อว่า KidBright IDE ซึ่งเป็นการ programing โดยการใช้ code block ก็คือจะมีกล่องๆให้เราลากไปต่อๆกันโดยที่ไม่ต้องนั่งจำ syntax ของภาษาใดๆ ทำให้ learning curve ตํ่า ก็คือลองลากๆเล่นแป๊ปๆก็เป็นแล้ว

การ programing ของผมค่อนข้างใช้เวลามากกว่าที่คิด เนื่องจากพอผม ได้รับ requirement ผมก็เริ่ม program โดยที่ไม่ได้มีการวางแผน ไม่มีการเขียน flowchart ประกอบกับตอนนั้นประสบการณ์ทางด้าน programing ยังน้อยอยู่ ผมจึงอยากแนะนำทุคนที่เผลอมาอ่าน ตอนเราทำ project อะไรไม่ว่าจะเล็ก หรือ ใหญ่ ก็อยากให้คำนึงถึงการวางแผน การ design ต่างๆก่อนจะเริ่มงาน เพราะมันสามารถช่วยจัดระเบียบ และ ลดเวลาการทำงานได้ แต่ผมก็สามารถทำจนเสร็จโดยใช้ระยะเวลาไม่ได้เยอะอะไร เนื่องจากไม่ได้เป็นระบบที่ใหญ่อะไร แต่การเทสผมก็ยังไม่ได้เทสใน hardware production เพราะ ในส่วน hardware ยังไม่เสร็จโดยมีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่า โดยจะมีอีก 2 คนในทีมที่ทำในส่วน hardware และ รูปเล่มเอกสาร ควบคู่กันไป
ผมทำในส่วนของ programing เสร็จแล้วก็ได้ไปช่วยใน่ส่วนของ hardware ต่อ ในส่วน hardware ส่วนมากก็เป็นการต่อเซ็นเซอร์กับบอร์ด KidBright โดยเราคาดหวังงานเนี๊ยบ… ในตอนแรกเราทำกระทั่งกล่องที่ใส่บอร์ดโดยเราได้เลือกเป็นกล่องอะคริลิค แต่ไม่ใช่กล่องธรรมดา เพราะเราต้องการจะ custom มันขึ้นมาเพื่อให้พอดีกับบอร์ด และ เซ็นเซอร์ โดยเราซื้อในส่วนของแผ่นอะคริลิค กรรไกรตัดอะคริลิค และกาวเชื่อมอะคริลิค โดยเราเริ่มตั้งแต่การตัดอะคริลิค หลังจากเราตัดได้บางส่วน และลองใช้ กาวเชื่อมอะคริลิค เราก็รู้ได้โดยทันที ซื้อกล่องปกติเถอะ ใครที่ยังไม่เคยลองตัด/เชื่อมอะคริลิค บอกเลยว่าต้องลองซักครั้งในชีวิต???? นั่นแหละครับสุดท้ายก็มาตายรังที่กล่องไฟ เรื่องที่ทำให้พวกเราได้เรียนรู้ว่า เราไม่จำเป็นต้องสร้างเองทุกอย่าง อะไรที่มีก็ใช้เถอะ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบัดกรีสายไฟ กับ ปอกสายไฟ แล้วก็เผาบอร์ดเล่น (อันนี้หยอกๆนะ)
Product เสร็จแล้ววว
หลังจากที่มั่วกันไปเรื่อยๆจนเสร็จซะทีโดยการทำงานหลักก็มีอยู่ 3 ระบบหลัก
- ปุ่มเรียกผู้ดูแล/ปุ่มฉุกเฉิน ส่งเสียงแจ้งเตือน
- ส่งเสียงเตือนเมื่อปัสสาวะเต็ม
- จับเวลาแจ้งเตือนพลิกตัวทุก 2 ชั่วโมง ส่งเสียงแจ้งเตือน

อัปเกรดกันซะหน่อย
เนื่องจากเราทำทุกอย่างกันเสร็จแล้ว แต่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง และ ด้วยผมก็ลองเล่นเจ้าตัว KidBright ไปเรื่อยๆจนได้ไปเจอเจ้า Plugin Line Notify ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลยดิ ไอเราก็เป็นซุปเปอร์ Dev ซะด้วย เลยเอาไปเสนอครูเพราะการที่จะ call API กับ Line ได้เราต้องมี อินเตอร์เน็ต จึงต้องทำเรื่องขอซื้อ Router พกพาแล้สก็ได้โปรแกรม Line Notify เข้าไปเพิ่ม

นักล่ารางวัล
พอทุกอย่างเรียบร้อย ก็ส่งแข่งสิครับ รายการแรกเป็น งานศิลปหัถกรรมนักเรียนครั้งที่ 69 ระดับเขต ที่โรงเรียนศรียาภัย ก็ได้ที่ 1 ตบเจ้าภาพไปตามระเบียบสิคร้าบบบ
โครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทซอร์ฟแวร์ งานศิลปหัถกรรมนักเรียนครั้งที่ 69 ระดับเขต ที่โรงเรียนศรียาภัย

ระดับชาติมีเหตุการน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นก่อนการแข่งนิดนึง จากภาพก็ดูเป็นการเก็บสายไฟที่ดูไม่เป็นระเบียบ และ ไม่ค่อยปลอดภัยซักเท่าไหร่ ????

นั่นแหละครับ เหตุได้เกิดขึ้นจริงๆ เพื่อนผมคนหนึ่งที่ได้ถือชิ้นงานอยู่ เกิดสะดุดขาตัวเองซะงั้น ชิ้นงานทั้งชิ้นตกกระแทกพื้นอย่างแรง ตูม!!!! พวกเราจึงได้รีบทดสอบการทำงานของระบบทันที ลอง debug ค่าต่างๆก็ปรากฎว่า บอร์ดรับค่าจากเซ็นเซอร์ไม่ได้เลย งานหยาบละครับงานนี้ โชคยังดีที่นำกล่องเครื่องมือมาด้วย พวกเราก็รีบเปิดฝากล่อง สายไฟทุกสาย ขาดบริเวณรอยต่อที่เอาท่อหดหุ้มเอาไว้ เราก็ได้ทำการเชื่อมต่อสายไฟใหม่ แต่ปัญหาคือมันเสียก่อนแข่ง 5 นาที ทำให้ตอนประกอบใหม่ก็ไม่เหลือเวลาสำหรับทดสอบระบบ ทำให้ต้องลุ้นหน้างานจริงว่าตอน Demo ให้กรรมการดูระบบจะใช้ได้ปกติหรือไม่ ตอนนั้นตัวผมเองคือใจเสียแล้ว แล้วได้คิวนำเสนอเป็นกลุ่มท้ายๆด้วย ผมก็นั่งซึม แต่ได้ครูที่ปรึกษาช่วยดึงสติไว้ “เรามาถึงระดับนี้ก็ เทพมากแล้ว อุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แค่ทำให้เต็มที่ก็พอ” พอถึงคิวนำเสนอทุกคนก็ทำกันอย่างเต็มที่ ตามที่ซ้อมกันมา ก็เก็บของขึ้นรถตู้กลับบ้าน พอขึ้นรถตู้สิ่งที่ทุกคนทำคือ เข้าเว็บไซต์รอดูประกาศผล ทุกคนต่าง refresh หน้าเว็บกันรัวๆ และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย “เห้ยมึงผลออกแล้วหวะ”

ได้ที่ 1 ระดับเขตก็ส่งระดับชาติต่อ แล้วก็ได้ที่ 1 อีกแล้วครับ ( ที่ 1 เลยหรอเพ่!!! )
ประกวดโครงงาน โครงการกล้าใหม่ใฝ่รู้ปีที่ 14
ทางโรงเรียนได้รับจดหมายจากโครงการ กล้าใหม่ใฝ่รู้ ครูจึงมาชวนไปแข่ง “สมัครมั้ย ชนะได้ 290,000 แข่งที่กรุงเทพ” ได้ยินเงินรางวัลก็น่าตื่นเต้นแล้ว แต่ไม่ได้คาดหวังเท่าไหร่ เพราะรอบนี้ เป็นการแข่งรวมกันทั้งประเทศ และ รวม ม.ต้น – ม.ปลาย แต่พอได้ยินว่าแข่งที่กรุงเทพ เด็กใต้ 3 คนก็ตาลุกวาว รีบบอกครูทันทีว่า “ลงครับครู” แต่ครั้งนี้โครงการต้องใช้สมาชิก 4 คน เราเลยได้ชวนเพื่อนอีก 1 คนมา คนนี้เป็นเทพ Programing เราก็ได้เริ่มรวมตัวกันอีกครั้ง ทางโรงเรียนก็มีของเล่นใหม่มาอีกแล้ว บอร์ด Microbit เราจึงเริ่ม dev ใหม่โดยใช้บร์ด Microbit เนื่องจากตอนนั้น Kidbright ยังเป็น Product ใหม่ไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่ ผมเจอปัญหาเรื่องการ Upload Code ขึ้นบอร์ด ผมก็จะเจอปัญหาหาบร์ดไม่เจอบ้าง Driver มีปัญหาบ้าง และเนื่องจากมีสาย Programing มาเพิ่มอีก 1 คน เราก็เลยตกลงกันว่า จะย้ายมาใช้ Microbit แต่พอเขียนไปซักพักแล้วลองทดสอบต่อเซ็นเซอร์ เกิดปัญหาบอร์ด รับค่าเซ็นเซอร์ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ลองปรึกษาครู ก็ คิดกันว่าบอร์ดน่าจะจ่ายไฟไม่พอ สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่ KidBright
โครงการกล้าใหม่ใฝ่รู้ โดยรอบแรกเราคัดเลือกจาก proposal คือไอเดีย รายละเอียดโครงการคร่าวๆ โดยคัด 20 ทีม เพื่อเข้าร่วมอบรม เข้ากิจกรรม แล้เอาความรู้ไปพัฒนาเป็นชิ้นงาน แล้วก็มา pitch กันอีกทีเพื่อหาผู้ชนะ ใครที่สนใจโครงการนี้ผมเชียร์ให้ลองสมัครไปเลยครับ ถ้าติดคือประสบการณ์ที่ได้คุ้มค่าแน่นอนลองไปติดตามเพจ SCB Challenge “กล้าใหม่…ใฝ่รู้” รอไว้ก็ได้ครับ
ผมขอข้ามเรื่องตอนที่ผมเข้ากิจกรรม ไปเลยแล้วกันนะครับ พอถึงวัน pitch เราก็ตื่นเต้นกันมาก แต่ก็ไม่ได้คาดหวัง เพราแต่ละทีมคือโหดกันมาก ทีมก็หวังไว้ที่ระดับชมเชย มาถึงตอนประกาศรางวัล เราก็เริ่มจากประกาศรางวัล ชมเชย แล้วก็ไปเรื่อยๆ รางวัลชมเชยก็ ไปแล้ว ที่3 ก็ไปแล้ว ที่ 2 ก็ไปแล้ว ตอนนั้นพวกเราก็หมดหลังแล้ว เพราะไม่ได้คิดเรื่องที่ 1 ไว้ในหัวเลย อาการแซ็งเริ่มมา สีหน้าเริ่มออก “รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนสวนศรีวิทยา!!” สีหน้าเปลี่ยนทันที ในทีมทุกคนต่างเหวอ หันมาสบตากันอย่างงๆ พอเริ่มได้สติก็แสดงความดีใจ แล้วขึ้นไปรับรางวัล

